Metal Pointer

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เชื่อหรือไม่? 13 ความเชื่อโบราณของคนไทย


หลาย ๆ คนมักจะมีเหตุการณ์บางเหตุการณ์ผ่านเข้ามา… และก็เกิดความสงสัยว่า มันจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นหรือเปล่า??? อย่างเช่น อาการที่ตาซ้ายหรือตาขวากระตุก หรือได้ยินเสียงจิ้งจกร้องทักก่อนที่เราจะออกจากบ้าน ซึ่งวันนี้...เราได้รวบรวมความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณมาให้ทุกคนได้ไขข้อข้องใจกัน มาดูกันเลยดีกว่า 😉





💀ความเชื่อที่ 1 : ตาเขม่น หรือ ตากระตุก



คนโบราณมีความเชื่อว่า...

» ตาเขม่นช่วงเช้า-บ่าย : ถ้าตาขวากระตุก แปลว่าจะมีโชคมีลาภ จะได้รับข่าวดี แต่ถ้าหากตาซ้ายกระตุก แปลว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

» ตาเขม่นช่วงเย็น : ไม่ว่าตาจะกระตุกข้างไหน ก็จะมีแต่เรื่องที่ดีเกิดขึ้น

» ตาเขม่นช่วงค่ำ : ถ้าเป็นตาขวากระตุกจะเกิดเรื่องไม่ดี จะมีเคราะห์ แต่ถ้าเป็นตาซ้ายตาจะถือว่ามีโชคมีลาภ หวังสิ่งใดก็จะสมหวังตามที่ปรารถนา
แต่ในยุคปัจจุบันทางการแพทย์ได้ระบุการกระตุกของเปลือกตานั้น อาจเกิดจากเส้นเลือดในสมองโป่งพองได้ ถ้าหากเป็นบ่อยๆ ต้องพบแพทย์โดยเร็ว เพราะถ้าปล่อยไว้นาน อาจทำให้ตาบอดได้








💀ความเชื่อที่ 2 : ถ้าได้ยินเสียงเรียกตอนกลางคืน ห้ามขานรับ



คนโบราณมีความเชื่อว่า...

เมื่อถึงเวลาประมาณสองทุ่ม ก็ดับตะเกียงนอนกันหมด ทำให้มืดไปทั้งหมู่บ้าน ถ้าหากมีเสียงเรียกชื่อกลางค่ำกลางคืน ห้ามขานรับ เพราะอาจจะเป็นดวงวิญญาณที่มาหลอกหลอน ซึ่งการขานรับนั้น ถือว่าเป็นการยอมรับ เป็นการอนุญาตให้วิญญาณเข้ามาในบ้านได้







💀ความเชื่อที่ 3 : อย่าเคาะจานข้าวเวลารับประทานอาหาร



คนโบราณมีความเชื่อว่า…

เวลารับประทานอาหารห้ามเคาะจานข้าว เพราะจะเป็นการเรียกดวงวิญญาณพเนจร เมื่อดวงวิญญาณได้ยินเสียงเราเคาะจาน ก็จะพากันมาแย่งเรากินข้าวกินอาหารคาวหวาน เราจะสังเกตได้จากเวลาเราที่ไหว้ศพหรือไหว้วันสำคัญ เราจะจัดชุดสำหรับพวกผีไม่มีญาติและทำพิธีเรียกมากินโดยใช้การเคาะถ้วยชาม ดังนั้นผู้ใหญ่จึงถือมากและห้ามลูกหลานเคาะจานชามเวลารับประทาอาหาร









💀ความเชื่อที่ 4 : จิ้งจกร้องทักห้ามออกจากบ้าน


คนโบราณมีความเชื่อว่า…
ถ้าต้องเดินทางไปไหนเมื่อเดินออกจากบ้านแล้วจิ้งจกร้องทักขึ้นมาต้องเลื่อนการเดินทาง แต่ไม่ใช่ว่าทักมาจากตรงไหนก็ถือว่าเป็นไปตามนี้หมด คนโบราณเชื่อว่าต้องทักจากบนหัวหรือด้านหลังเท่านั้น แต่ถ้าทักจากด้านหน้าหรือทางซ้ายมือให้ออกเดินทางได้เลย เพราะจะเดินทางสะดวกสบาย ปลอดภัย ได้โชคได้ลาภ










💀ความเชื่อที่ 5 : นกแสกเกาะหลังคาบ้าน สัญญาณความตาย

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
นกแสกหน้าตาคล้าย ๆ กับนกเค้าแมว ซึ่งความเชื่อนี้เป็นสากลมาก ๆ เพราะบางวัฒนธรรมในต่างประเทศก็มีความเชื่อด้านนี้เหมือนกัน เพราะธรรมชาติของนกแสกจะไม่มาบินอยู่ตามบ้านเรือน ดังนั้น การที่นกแสกมาเกาะตามบ้านเลยกลายเป็นเรื่องที่น่าสงสัย และว่ากันว่าจะเกิดเรื่องไม่ดี โดยเฉพาะถ้ามีคนป่วยอยู่ในบ้าน จะมีการแก้เคล็ดกันด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน สุรา อาจเพิ่ม ข้าวสาร ผ้าตอก ผ้าแดง ผ้าขาว และเงินทอง เข้าไปด้วย ทั้งนี้เสียงของนกแสกยังทำให้เกิดความกลัวอีกด้วย



💀ความเชื่อที่ 6 : กลางคืนห้ามกวาดบ้าน

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
การกวาดบ้านเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากของคนไทยแทบทุกบ้านที่จะต้องกวาดบ้าน แต่สำหรับคนไทยนั้นโบราณถือกันมากว่า “ห้ามกวาดบ้านตอนกลางคืน” เพราะการกวาดบ้านตอนกลางคืนนั้นจะเป็นการ “กวาดเงินกวาดทองออกจากบ้าน” แต่อันที่จริงคนโบราณอยากสอนให้ลูกหลานระวังของมีค่าจะถูกกวาดทิ้งไป เพราะเวลากลางคืนสมัยก่อนจะมืดมากไม่มีไฟฟ้าใช้สว่างไสวเหมือนในยุคปัจจุบัน อีกทั้งเวลากลางคืนเป็นเวลาพักผ่อน








💀ความเชื่อที่ 7 : ห้ามเผาศพวันศุกร์

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
“วันศุกร์” เป็นวันแห่งโชคลาภ เป็นวันแห่งความร่มเย็น มีความสุข “วันศุกร์” จึงเหมาะแก่งานมงคลมากกว่า เช่น งานแต่งงาน งานขึ้นบ้านใหม่ หรืองานฉลองพิธีต่าง ๆ ดังนั้นจึงไม่นิยมจัดงานอัปมงคลกันในวันศุกร์ และงดการเผาศพในวันศุกร์ เพราะเป็นการให้ทุกข์กับคนเป็นญาติ ผู้คนส่วนมากจึงนิยมแต่งงานในวันศุกร์และไม่มีงานเผาศพในวันศุกร์










💀ความเชื่อที่ 8 : ห้ามเดินข้ามหนังสือ

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
หนังสือเป็นของสูง เพราะเป็นแหล่งความรู้ หนังสือทำให้เราฉลาด คนโบราณจึงสอนให้รู้คุณค่าของหนังสือ และเคารพยิ่งนัก หากผู้ใดลบหลู่หนังสือ เช่น เดินข้าม โบราณว่าผู้นั้นจะเป็นคนโง่ตลอดชาติ จะร่ำเรียนอะไรก็ไม่เก่ง ไม่ฉลาด ปัญญาจะทึบ คิดก็ช้า หรือแม้จะทำงานสิ่งใดก็ไม่ประสบความสำเร็จ ใครไม่อยากโง่เขลาเบาปัญญา อย่าข้ามหนังสือ
ทั้งนี้ คนโบราณอยากสอนให้รู้คุณค่าของหนังสือ ไม่ควรแสดงกิริยาอันไม่เหมาะสม คนเราควรรู้จักเคารพสิ่งที่มีคุณค่า ซึ่งหนังสือถือว่าเป็นครูผู้หนึ่ง ที่ทำให้เราเป็นคนที่มีความรู้ มีความเฉลียวฉลาด ทำให้เราอ่านออกเขียนได้








💀ความเชื่อที่ 9 : ห้ามนอนช่วงหัวค่ำ

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
เมื่อถึงเวลาตอนเย็นห้ามไม่ให้ลูกหลานนอนหัวค่ำ เพราะจะถูกผีอำ หรือไม่ก็จะมีผีมาขโมยเอาวิญญาณของเราไปอยู่ด้วย หรือหลอกล่อให้เราไปอยู่ด้วย เพราะโลกของผีกับคนจะไม่เหมือนกัน เมื่อเป็นเวลาสว่างของเราก็จะเป็นเวลามืดของเขาส่วนเวลามืดของเราก็เป็นเวลาสว่างของเขา เวลาที่เรานอนตอนหัวค่ำนี้เป็นอันตรายยิ่ง เพราะเป็นเวลาที่โลกผีใกล้สว่างแล้ว โบราณจึงห้ามไม่ให้นอนในตอนหัวค่ำ







💀ความเชื่อที่ 10 : ห้ามเจ้าบ่าวเจ้าสาวพบกันก่อนแต่งงาน 3 วัน

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
การแต่งงานถือเป็นเรื่องสำคัญนักสำหรับบ่าวสาว เพราะจะต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่เมื่อมีความสำคัญ ก็ต้องมีเคล็ดหรือข้อห้ามเอาไว้ให้ปฏิบัติตามถึงจะเป็นมงคล เช่น การจัดงานแต่งงาน ห้ามมิให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวพบหน้ากันก่อนจะแต่งงาน 3 วัน คืออีก 3 วันจะเข้าพิธีแต่งงานแล้วห้ามพบกัน ต้องต่างคนต่างอยู่ ไม่อย่างนั้นแล้ว ชีวิตคู่จะไม่ยั่งยืน จะมีเหตุให้อย่าร้างกัน หรือไม่ก็จะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องจากไป







💀ความเชื่อที่ 11 : ห้ามเล่นเงาตอนกลางคืน

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
อย่าให้เด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่เล่นเงาตัวเองในตอนกลางคืน เพราะจะทำให้เกิดเหตุร้ายตามมา ไม่ว่าจะเป็นผี วิญญาณร้าย ทั้งหลายที่ผ่านมา อาจจะมองเห็นเด็กได้จากเงาของเด็กนั้น ซึ่งจะทำให้พวกผี วิญญาณเหล่านี้ จะคอยตามไปรบกรวนหรือหลอกหลอนเด็กได้ เมื่อยามนอนหลับ และเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเสียขวัญ เพราะเด็ก ๆ ที่เล่นเงาตัวเองตอนกลางคืน เด็กอาจจะเก็บเอาไปคิดและทำให้ฝันร้าย เป็นเหตุทำให้เด็กนอนผวา หรือร้องไห้ยามค่ำคืนโดยไม่ทราบสาเหตุบางทีอาจจะทำให้เด็กเกิดอาการหวาดกลัว จนเป็นสาเหตุให้เด็กเจ็บป่วยและไม่สบายได้






💀ความเชื่อที่ 12 : ห้ามแต่งงานในเดือนคี่

คนโบราณมีความเชื่อว่า…
โบราณมีข้อห้ามเกี่ยวกับการแต่งงานไว้ว่า ห้ามแต่งงานในเดือนคี่ เดือนอ้าย เดือน 3 เดือน 5 เดือน 7 เป็นเลขที่เชื่อว่าเป็นฤกษ์อัปมงคล เพราะถือเอาเคล็ดที่ว่าคี่ไม่เป็นคู่ แต่การแต่งงานเป็นเรื่องของคู่ คือสองคนต้องถือเอาเคล็ดว่า ควรแต่งงานในเดือนคู่ จึงจะเป็นมงคล ถ้าแต่งงานในเดือนคี่จะต้องมีเหตุวุ่นวายแตกแยกกัน แล้วจะต้องเลิกรากันในภายหลัง โบราณจึงห้ามแต่งงานกันในเดือนนี้ หญิงชายที่คิดจะแต่งงาน ควรแต่งกันในเดือนคู่ เช่นเดือนยี่ เดือน 4 เดือน 6 เดือน 8 จึงจะเป็นสิริมงคล และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขตลอดกาลนาน
อย่างไรก็ตาม มีเดือนคี่อยู่เดือนเดียว ที่โบราณอนุญาตให้แต่งงานได้ คือ เดือน 9 เพราะถือว่าเป็นเลขดี แต่งเดือน 9 ก็จะได้ฤกษ์ดี จะมีความเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน





💀ความเชื่อที่ 13 : ห้ามชี้นิ้วไปที่รุ้งกินน้ำ

คนโบราณมีความเชื่อว่า…

รุ้งกินน้ำเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เกิดจากการแสดงอิทธิฤทธิ์ของเทวดา เพื่อให้ผู้คนได้ชม เพื่อความสวยงาม แต่ก็ห้ามลบหลู่ และห้ามกระทำการใด ๆ ที่ไม่สมควร เช่น ห้ามชี้นิวที่รุ้งกินน้ำ ซึ่งคนโบราณเชื่อว่าจะทำให้นิ้วกุด ชี้นิ้วไหน หรือกี่นิ้ว ก็จะกุดด้วนเท่านั้น โดยเฉพาะเด็ก ๆ พอเห็นรุ้งกินน้ำ ก็อดที่จะมองดูไม่ได้ มักจะชี้นิ้วขึ้นไปเสมอ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น